ค่ำคืนแห่งความสูงและความต่ำสำหรับเหล่าเอลีท! เรอัล มาดริด คว้าตำแหน่งจ่าฝูงในลาลีกา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พ่ายแพ้อย่างไม่คาดคิด อาร์เซนอล กลายเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ การแข่งขัน: เอ็มบัปเป้, เรอัล มาดริด

2025-10-28

ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยควันในสนามฟุตบอลยุโรป คืนนี้ถูกกำหนดให้เป็นคืนที่ไร้การหลับใหล การปะทะกันหลายคู่ที่มีเดิมพันสูงได้สร้างช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้น มอบความสุขให้กับแฟนบอลราวกับเป็นงานเลี้ยงแห่งฟุตบอลอย่างแท้จริง

ก่อนอื่น ขอให้เราหันความสนใจไปที่การแข่งขันที่ทุกคนรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ นั่นคือศึกเอลกลาซิโกของสเปน ที่สนามเบร์นาเบว เรอัล มาดริด และบาร์เซโลนา ได้เผชิญหน้ากันในเกมที่เต็มไปด้วยความดุเดือด ตั้งแต่เริ่มเกม เรอัล มาดริด แสดงเจตจำนงในการโจมตีอย่างชัดเจน แต่การได้จุดโทษในนาทีที่ 2 กลับถูกยกเลิกอย่างโหดร้ายหลังจากการตรวจสอบ VAR ทำให้แฟนบอลเจ้าบ้านรู้สึกผิดหวังอย่างมากต่อมา การยิงไกลสุดสวยของเอ็มบัปเป้ก็ถูกตัดสินให้เป็นลูกล้ำหน้าอย่างเฉียดฉิว ทำให้โมเมนตัมของเรอัลถูกขัดขวางซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างไรก็ตาม เอ็มบัปเป้ไม่ย่อท้อและสามารถหลุดพ้นกับดักล้ำหน้าได้สำเร็จในนาทีที่ 22 ก่อนจะซัดลูกเฉียงอย่างแม่นยำผ่านมือเชสนี่เข้าไป ทำลายสกอร์ที่เสมอกันอยู่ในที่สุดบาร์เซโลนาไม่ยอมแพ้ ในนาทีที่ 38 เฟร์มินยิงประตูจากในกรอบเขตโทษทำให้สกอร์กลับมาเสมอกัน แต่การพักฟื้นก็อยู่ได้ไม่นานเมื่อเรอัล มาดริดกลับมาขึ้นนำอีกครั้งในไม่กี่นาทีต่อมา มิลิเตาโหม่งบอลต่อให้เบลลิงแฮมยิงเข้าประตูที่ว่างเปล่าอย่างง่ายดาย เผยให้เห็นแนวรับของบาร์เซโลนาเป็นเพียงพิธีการเท่านั้นก่อนหมดครึ่งแรกไม่นาน เอ็มบัปเป้ยิงประตูได้อีกครั้ง แต่ถูกตัดสินให้เป็นลูกล้ำหน้า ครึ่งแรกจบลงด้วยเรอัล มาดริดนำอยู่ 2-1 ครึ่งหลังเริ่มขึ้นโดยเรอัล มาดริดได้จุดโทษอีกครั้ง แต่เชสนี่โชว์การเซฟอย่างยอดเยี่ยมปฏิเสธลูกยิงของเอ็มบัปเป้ ทำให้เกมยังคงสูสี ทั้งสองทีมเปลี่ยนตัวผู้เล่น โดยเรอัล มาดริดเริ่มครองเกมได้เหนือกว่าอย่างชัดเจนในช่วงเวลาสุดท้ายของเกม เปดรีของบาร์เซโลนาถูกใบแดง ทำให้สถานการณ์ของทีมย่ำแย่ลงไปอีก ในที่สุด ประตูจากเอ็มบัปเป้และเบลลิงแฮมทำให้เรอัล มาดริดเอาชนะบาร์เซโลนาไปได้ 2-1 ป้องกันแชมป์ในบ้านได้สำเร็จและยืนยันตำแหน่งจ่าฝูงของลาลีกา ตลอดการแข่งขัน เรอัล มาดริดยิงเข้ากรอบ 23 ครั้ง ซึ่งมากกว่าบาร์เซโลนาที่ยิงได้ 15 ครั้งอย่างมาก ทำให้ชัยชนะของพวกเขาสมควรได้รับอย่างแท้จริง

หันมาสนใจพรีเมียร์ลีก อาร์เซนอลเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของคริสตัล พาเลซ ด้วยลูกวอลเลย์สุดสวยของเอเซในนาทีที่ 38 ของครึ่งแรก ทำให้ทีมปืนใหญ่คว้าชัยชนะอย่างหวุดหวิด 1-0 ขยายสถิติชนะติดต่อกันในลีกเป็น 4 นัดรวด ชัยชนะครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ทำให้อาร์เซนอลนำเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนนด้วยคะแนนนำ 4 แต้ม และกลายเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของรอบนี้

ขณะเดียวกัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประสบกับความพ่ายแพ้ในเกมเยือน โดยแพ้ให้กับแอสตัน วิลล่า 0-1 ในนาทีที่ 20 แคชของวิลล่ายิงไกลผ่านดอนนารุมม่าเข้าไป ทำให้ซิตี้ตกเป็นฝ่ายตามหลังอย่างไม่คาดคิด หลังจากนั้น การโจมตีของซิตี้ก็สะดุด ไม่สามารถสร้างโอกาสทำประตูที่มีนัยสำคัญได้ แม้ว่าฮาแลนด์จะทำประตูได้ในนาทีที่ 89 แต่ประตูถูกตัดสินว่าเป็นลูกล้ำหน้าจากผลการแข่งขันนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามหลังจ่าฝูงของลีกอย่าง อาร์เซนอล อยู่หกคะแนน และต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบากในการรักษาแชมป์ไว้

ในการแข่งขันอีกคู่หนึ่ง บอร์นมัธยังคงรักษาฟอร์มอันยอดเยี่ยมในช่วงหลังด้วยการเอาชนะน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ไปอย่างขาดลอย 2-0 จากประตูของทาเวอร์เนียร์และกูลิบาลีนับตั้งแต่พ่ายแพ้ในวันเปิดฤดูกาลให้กับลิเวอร์พูล บอร์นมัธยังคงไร้พ่ายใน 8 นัดหลังสุดในลีก โดยเก็บชัยชนะได้ 5 นัดและเสมอ 3 นัด ปัจจุบันพวกเขาอยู่ในอันดับที่สองของตารางและดูเหมือนจะกลายเป็นม้ามืดของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ ขณะที่น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ต้องพบกับความพ่ายแพ้ติดต่อกัน 0-2 สองนัดนับตั้งแต่เปลี่ยนผู้จัดการทีม ทำให้โอกาสในการอยู่รอดของพวกเขาดูมืดมนอย่างเห็นได้ชัด